คำเทศนา “มองสิ่งที่มองไม่เห็น”

คำเทศนาที่เน้นย้ำถึง ความรักที่ไม่มีเงื่อนไขและยิ่งใหญ่ของพระเจ้า แม้ในความผิดพลาดของมนุษย์ โดยยกเรื่องราวของ ผู้เผยพระวจนะเอลีชา ในพระคัมภีร์มาประกอบ เอลีชาสามารถมองเห็นและรับรู้สิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นได้ทางกายภาพ ซึ่งเป็นของประทานจากพระเจ้าและช่วยให้เขารอดพ้นจากอันตรายได้ คำเทศนาเน้นให้ผู้เชื่อ มองเห็นอำนาจและฤทธิ์เดชของพระเจ้า ในทุกสถานการณ์ และเชิญชวนให้ มีส่วนร่วมในพระเมตตากรุณาของพระเจ้า โดยการแสดงความเมตตาและให้อภัยต่อผู้ที่ทำร้ายเรา แทนที่จะแก้แค้น เพื่อให้เกิดสันติภาพตามแบบอย่างของพระเจ้าและเอลีชา

1. ความรักและความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า

1.1 ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข

  • พระเจ้าผู้ทรงรักเราทั้งหลาย โดยไม่มีเงื่อนไขไม่มีสิ้นสุด ความรักของพระเจ้านั้นไหลล้นเหนือชีวิตของเราเสมอ แม้ว่าเราทั้งหลายเป็นคนบาป แม้ว่าเราทั้งหลายทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก แม้ว่าเราทั้งหลายไม่ได้ดำเนินตามถ้อยคำของพระองค์ทุกประการ แต่ความรักและความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าก็ยังไม่สิ้นสุดในชีวิตของข้าพระองค์ทั้งหลาย

1.2 พระเจ้าผู้เมตตาต่อทุกคน

  • แม้ศัตรูของอิสราเอล เช่น ซีเรีย พระเจ้าก็ยังทรงใช้งานและสำแดงพระคุณ “พระเจ้ายังให้แม่ทัพซีเรียได้รับชัยชนะ แสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงช่วยเหลือทุกคน”

2. การมองเห็นในสิ่งที่ไม่เห็น: บทเรียนจากเอลีชา

2.1 การมองเห็นฝ่ายวิญญาณ

  • เอลีชาผู้เผยพระวจนะ มีความสามารถพิเศษในการ “มองเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น” ซึ่งมาจาก “การเปิดเผยของพระเจ้า” และการมี “หูที่เขาเปิดฟังพระเจ้าตลอด หรือมีตาที่เปิดออกเพื่อจะเห็นสิ่งที่พระเจ้าจะทำตลอด”

2.2 การมองเห็นในภาวะวิกฤต

  • เมื่อกองทัพซีเรียล้อมเมืองโดธานที่เอลีชาอาศัยอยู่ คนรับใช้ของเอลีชาเต็มไปด้วยความกลัวเพราะเห็นแต่กองทัพของศัตรู
  • แต่เอลีชาซึ่งมองเห็นด้วยสายตาฝ่ายวิญญาณกล่าวว่า “อย่ากลัวเลย เพราะฝ่ายเรามีมากกว่าฝ่ายเขา”
  • ท่านอธิษฐานขอให้พระเจ้าเปิดตาของคนรับใช้ และคนรับใช้ก็ “มองเห็นภูเขาเต็มไปด้วยม้า รถรบ รถเพลิงของพระเจ้า” ซึ่งเป็นกองทัพทูตสวรรค์

2.3 ความใกล้ชิดกับพระเจ้า = การเห็นพระองค์ชัด

  • “ถ้าเราเห็นพระเจ้ายิ่งใหญ่ ปัญหาของเราจะเล็กลง” ผู้เทศนาเปรียบเทียบกับเด็กชายที่มองเครื่องบิน — การเห็นชัด ขึ้นอยู่กับความใกล้

2.4 ศัตรูที่แท้จริง

  • “ศัตรูของเราคือมารซาตาน ไม่ใช่มนุษย์ที่มาขัดแย้งกับเรา” ต้องแยกแยะและไม่หลงเชื่อการยั่วยุของมาร

3. การมีส่วนร่วมในพระกรุณาของพระเจ้า

3.1 พระเจ้าทรงเชิญให้เรามีส่วนร่วม

  • แม้พระเจ้าจะทรงสามารถทำทุกสิ่งได้ด้วยพระองค์เอง แต่พระองค์ทรง “ดีใจที่เรามีส่วนร่วมกับพระองค์” เหมือนพ่อที่ดีใจที่ลูกช่วยล้างรถ

3.2 ความเมตตาต่อศัตรู

  • เอลีชาห้ามกษัตริย์ประหารศัตรู แต่ให้เลี้ยงอาหารแทน
  • ผลคือ “พวกซีเรียไม่ได้มาปล้นในแผ่นดินอิสราเอลอีกเลย”
  • นี่คือตัวอย่างการ “เอาชนะความชั่วด้วยความดี” (โรม 12:14-21)

3.3 การตอบสนองที่ขัดกับสัญชาตญาณ

  • หลักการนี้ขัดกับสัญชาตญาณของมนุษย์ที่ต้องการแก้แค้น
  • ยกตัวอย่างข้อพระคัมภีร์ โรม 12:14-21 “จงอวยพรแก่คนที่เคี่ยวเข็ญท่าน จงอวยพร อย่าแช่งด่าเลย…อย่าให้ความชั่วชนะเราได้ แต่จงชนะความชั่วด้วยความดี”

3.4 ผลของการแสดงความเมตตา

  • ศัตรูสับสนเมื่อได้รับความเมตตา” และนำมาซึ่งสันติภาพ การแก้แค้นไม่เคยสร้างสันติภาพ

3.5 การเปลี่ยนแปลงในตัวเรา

  • เหตุการณ์และผู้คนในชีวิตของเรา ไม่ว่าดีหรือร้าย ล้วนเข้ามา “เพื่อเปลี่ยน แปลงเรา…เพื่อขัดเกลาให้เราเป็นเวอร์ชั่นที่มันดีมาก ขึ้น”

4. การประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน

4.1 ใกล้ชิดพระเจ้า

  • การมองเห็นในสิ่งที่ไม่เห็น เริ่มต้นจากการเข้าใกล้ชิดพระเจ้า” ความสนิทสนมกับพระองค์ทำให้เราเห็นสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น

4.2 การอธิษฐาน

  • การอธิษฐานมากขึ้นจะทำให้เรา “ได้ยินในสิ่งที่คนอื่นไม่ ได้ยิน เราจะเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น”

4.3 การแสดงความเมตตา

  • การแสดงความเมตตาและความกรุณาต่อทุกคน แม้แต่ผู้ที่เราไม่อยากเห็นหน้า ก็คือการมีส่วนร่วมในพระราชกิจอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า

4.4 การรับรู้การอัศจรรย์

  • การรักศัตรู การรอดจากอุบัติเหตุ การมีเงินเข้าบัญชีโดยไม่คาดคิด — ล้วนเป็นการอัศจรรย์”
  • ผู้เทศนาย้ำว่าอัศจรรย์ไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ แต่แฝงอยู่ในเรื่องเล็กๆ ของชีวิต

4.5 การเป็นผู้สร้างสันติ

  • เราถูกเรียกให้เป็นผู้สร้างสันติในโลกนี้ โดยการแสดงความรัก ความเมตตา และการให้อภัย ตามแบบอย่างของพระเจ้า

1 thoughts on “คำเทศนา “มองสิ่งที่มองไม่เห็น””

แสดงความคิดเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top